้รื่ฃฃ

  สโมสรลิเวอร์พูลเป็นสโมสรที่เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างน่าเป็นห่วงมากที่สุดในบรรดาสโมสรทั้งหลายของพรีเมียร์ลีก นั่นก็เป็นเพราะว่าฤดูกาลที่แล้วพวกเขามีลุ้นคว้าถึง 4 แชมป์เลยทีเดียวแต่ฤดูกาลนี้พวกเขากลับเปิดตัวด้วยการพ่ายแพ้และเสมอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชัยชนะที่เคยหอมหวานเป็นสิ่งที่แทบจะไม่ได้พบเจอในฤดูกาลนี้ และปัญหาก็อยู่ที่นักเตะนั่นเอง ไม่ได้หมายความว่านักเตะในลิเวอร์พูลไม่มีความสามารถแต่อย่างใดเพราะพวกเขาก็ยังคงเป็นสุดยอดนักเตะในยุโรปตามเดิม แต่ปัญหาก็คือความเหนื่อยล้าและอาการบาดเจ็บที่สั่งสมมาอย่างยาวนานจนทำให้ทีมไม่มีตัวเลือกมากพอในการส่งนักเตะลงสนามต่างหาก โดยเฉพาะนักเตะกองกลางที่ทำงานหนักเป็นประจำในการแข่งขันทุกนัด และลิเวอร์พูลเองก็ไม่ได้มีนักเตะสำรองที่มีความสามารถมากพอถึงขั้นที่จะมาแทนตำแหน่งนักเตะตัวจริงได้แต่อย่างใด ทำได้เพียงแค่ส่งนักเตะตัวสำรองลงเป็นตัวจริงเพื่อขัดตาทัพรอให้นักเตะตัวจริงหายจากอาการบาดเจ็บก็เท่านั้น ดังนั้นในช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ลิเวอร์พูลไม่สามารถดื้อแพ่งไม่ยอมใช้เงินได้เหมือนกับฤดูกาลที่แล้วอีกต่อไป ตำแหน่งที่พวกเขาจะต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษก็

ศึกฟุตบอล เอเอฟซี U17 เอเชียน คัพ 2023  รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 กลุ่มเอ เมื่อวันพุธที่ 21 มิถุนายน 2566     ทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ  ทีมชาติเยเมน  ที่สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม โดยทั้งสองทีมชนะมา 2 นัดรวดการันตีเข้ารอบน็อกเอาต์แน่นอนแล้ว แต่เกมนี้ยังมีความสำคัญที่การแย่งชิงตำแหน่งแชมป์กลุ่ม นาทีที่ 8 ทีมไทยได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ ดุษฎี บูรณะจุฑานนท์ จ่ายบอลผ่านแนวรับให้ ชโนทัย คงเหม็ง หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยซัดยัดมุมแคบ บอลพุ่งชนเสาเด้งออกหลังไป นาที 19 เยเมนได้โอกาสลุ้นบ้าง อเดล กาเซม กองหน้าตัวเก่ง ได้โอกาสพลิกบอลซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่บอลไม่ตรงกรอบ นาที 42 พัชรพล เหล็กกุล มิดฟิลด์กัปตันทีมของไทย ตัดบอลได้ ก่อนลองซัดไกลจากนอกเขตโทษ แต่พุ่งหลุดกรอบออกไป ทำให้จบครึ่งแรกด้วยผลเสมอกันอยู่ 0-0 ครึ่งหลังนาที 51 พงศกร สังขโสภา ตัวรุกทีมชาติไทย ได้หวดด้วยขวาจากนอกเขตโทษ แต่บอลพุ่งไปตรงตัวนายทวารเยเมนรับเอาไว้ได้ไม่ยาก จนมาถึงช่วงทดเจ็บนาทีที่ 5 แฟนบอลไทยได้เฮสนามแทบแตกจากจังหวะได้ฟรีคิกเปิดบอลโด่งเข้าเขตโทษ ธนกฤต ล้อมนาค โหม่งจ่อๆ เข้าประตูไป และเป็นประตูชัยให้ ทีมชาติไทย เฉือนชนะ เยเมน สุดระท

  ฤดูกาลนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ลิเวอร์พูลมีผลงานที่ไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไหร่ ทุกอย่างผิดหูผิดตาไปหมดโดยเฉพาะหากเทียบกับฤดูกาลที่แล้วที่พวกเขามีลุ้นถึง 4 แชมป์ แต่ฤดูกาลนี้แม้แต่แชมป์รายการเดียวพวกเขายังไม่มีลุ้นด้วยซ้ำไป สำหรับการแข่งขันพรีเมียร์ลีก 2022 ที่เพิ่งจบไปพวกเขานั้นก็อยู่แค่อันดับ 5 บนตารางเท่านั้น สิ่งที่น่าตกใจไปมากกว่านี้ก็คือผลงานรายบุคคลของนักเตะแต่ละคนภายในทีมที่ย่ำแย่และตกต่ำกว่ามาตรฐานอย่างน่าเหลือเชื่อ พวกเขาเป็นนักเตะระดับโลกดังนั้นผลงานที่ออกมาในฤดูกาลนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้แต่อย่างใด แม้ว่าพวกเขาจะสามารถอ้างได้ว่าในฤดูกาลนี้มีนักเตะหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บจนส่งผลต่อฟอร์มโดยรวมรวมไปถึงฟอร์มรายบุคคล แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่ควรเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นกับทีมใหญ่อยู่ดี สิ่งที่พวกเขาขาดไปในตอนนี้ก็คือการจัดการเกี่ยวกับระบบนักเตะให้ดีไม่ใช่แค่การต้องประหยัดเงินในการซื้อนักเตะเหมือนที่เคยทำตลอดมาแต่อย่างใด การที่พวกเขาไม่สามารถเข้าสู่การแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกได้สำเร็จในฤดูกาลหน้าเป็นการการันตีเราว่าผลงานของพวกเขาในฤดูกาลนี้ยังไม่ดีพอ และหนึ่ง

  เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่ผู้คนในวงการฟุตบอลต่างให้ความสนใจกันเป็นอย่างยิ่งหลังจากที่มีข่าวลือออกมาว่าลิโอเนล เมสซี่ นักเตะกองหน้าคนดังระดับตำนานจากอาร์เจนตินาต้องการจะโบกมือลาสโมสรต้นสังกัดอย่างปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาของเขาในปารีสนั้นไม่ค่อยจะสวยงามสักเท่าไหร่ เขาต้องใช้เวลาระดับหนึ่งเลยทีเดียวกว่าจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสโมสรใหม่ได้หลังจากอยู่กับบาร์เซโลน่ามาร่วม 2 ทศวรรษ หลังจากปรับตัวได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วปัญหาดราม่าก็ยังคงไม่หมดไปแต่อย่างใด สุดท้ายนี้หลังหมดสัญญามันจะมีโอกาสสูงเป็นอย่างมากว่าเจ้าตัวจะไม่ต่อสัญญาและย้ายไปอยู่กับสโมสรอื่น ซึ่งก็ยังคงเป็นปริศนาว่าจะเป็นสโมสรใดระหว่างบ้านเก่าที่เจ้าตัวรักนักรักหนาอย่างบาร์เซโลน่ากับสโมสรใหม่ในซาอุดิอาระเบียที่พร้อมจะมอบค่าเหนื่อยมหาศาลให้กับเขาถึงขั้นที่แซงหน้าสถิติค่าตัวสูงที่สุดในโลกของโรนัลโด้ไปเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามด้วยผลงานกับสโมสรหน่อยที่ไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไหร่กับการทำไม่ได้เพียงแค่ 32 ประตูจากการลงแข่งขันทั้งหมดกว่า 75 นัดทุกรายการ ทำให้ไม่ได้มีแค่คนที่ชื่นชอบเขาเพียงอย่างเดียวแต่ก็ยังมีคนจำนวนไม

  เอฟเอ เตรียมฟันฟูแล่มหนัก  สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ยืนยันเตรียมบทลงโทษ ฟูแล่ม ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก เอาไว้อย่างหนัก หลังสร้างวีรกรรมงามหน้า โดนใบแดงถึง 3 ใบในเกมเดียว ซึ่งเป็นเกม เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายที่พวกเขาบุกไปพ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มา 3 – 1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมดราม่าในเกมนั้น  ในเกมดังกล่าว “เจ้าสัวน้อย” ถือว่าสร้างผลงานเป็นต่อเจ้าบ้านอยู่หลายขุมด้วยกัน และก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ดาวยิงตัวเก่ง แต่ในนาที 72 ฟูแล่ม ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 ในจังหวะแรกหลังจาก วิลเลี่ยน ปีกตัวเก่งเจตนาทำแฮนด์บอลในเขตโทษเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกยิงของ จาดอน ซานโช่ พุ่งเข้าประตู แน่นอนว่าในจังหวะนั้น คริส คาวานาฟห์ ไม่ได้เป่าให้เป็นจุดโทษจนกระทั่งมีสัญญาณจากห้อง VAR ก่อนที่เจ้าตัวจะให้จุดโทษกับเจ้าบ้านและชักใบแดงไล่ วิลเลี่ยน ออกจากสนาม ความวุ่นวายเกิดขึ้นหลังจากนั้นนักเตะฟูแล่มที่ไม่พอใจคำตัดสินต่างกรูเข้าไปเพื่อขอความเห็นจากผู้ตัดสินแต่มันกลับบานปลายไปจนถึงใบแดงใบที่ 2 เมื่อ มิโตรวิช ไปผลักผู้ตัดสินด้วยอารมณ์ และจากนั้น มาร์โก ซิลวา ก็ใช้คำพูด